ยอ อยู่คู่กับคนไทยมานับร้อยปี ใบยอนิยมนำมาใส่ในห่อหมก ช่วยแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ หรือนำมาตำคั้นเอาน้ำทาแก้โรคเกาต์ ปวดตามข้อ นิ้วมือ นิ้วเท้า
จริงๆแล้ว ยอ เป็นต้นไม้จากแถบหมู่เกาะตาฮิติในทวีปอเมริกา ต่อมาได้มีผู้นำมาปลูกในประเทศเขตร้อน รวมถึงประเทศไทยด้วย ซึ่งในไทยจะมีคติความเชื่อด้านดีเกี่ยวกับต้นยอ
ต้นยอในประเทศไทย ถือว่าเป็นไม้มงคล นิยมปลูกในบริเวณบ้าน เพื่อเป็นเคล็ดว่าจะได้รับการสรรเสริญเยินยอ
และมีการใช้ใบยอในพิธีมงคลต่างๆ เช่น ใช้ใบยอรองก้นหลุมเสาเอก เสาโท หรือใช้ใบยอรองขันบายศรีสู่ขวัญในงานมงคลต่างๆ
คนไทยนิยมนำใบยอมาปรุงอาหาร โดยอาจลวกหรือต้มให้สุก แล้วกินเป็นผักจิ้มน้ำพริก หรือใช้ใบยอรองก้นกระทงห่อหมก ทำเป็นแกง อ่อม แกงเผ็ด
ในใบยอ 100 กรัม จะมีแคลเซียมมากถึง 469 มิลลิกรัมเลยทีเดียว (คนทั่วไปควรได้รับแคลเซียมวันละ 800 มิลลิกรัม)
ใบยอ ในฐานะยา
แก้ไข้
ในภูมิปัญญาชาวบ้านของไทยตั้งแต่รุ่นปู่ยาตายาย ได้ใช้ใบยอในฐานะยากลางบ้านมานานแล้ว ใบอ่อนจะมีรสขมเล็กน้อย มีสรรพคุณแก้ไข้ ช่วยลดความร้อนในร่างกาย
แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ
ช่วยแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อได้จึงนิยมนำไปปรุงเป็นอาหาร
ปวดหัว
ใช้ใบยอต้มน้ำเดือด 3-5 นาที แปะที่หัวเพื่อลดอาการปวดหัว
ปวดข้อ
ใช้ใบยอตำคั้นน้ำ ทาแก้โรคเกาต์ ปวดตามข้อ นิ้วมือ นิ้วเท้า
ถ่ายมีเลือดปน
นำใบยอป่า 1 กำมือ มาตำให้ละเอียดแล้วคั้นเอาแต่น้ำ ผสมเกลือเล็กน้อย กินก่อนอาหารเช้าประมาณ 3 วัน แก้อาการท้องผูก อาการเจ็บแถวทวารหนัก แก้อาการถ่ายอุจจาระจะมีเลือดปน
โรคเกาต์
นอกจากนี้แพทย์แผนไทยประจำโรงพยาบาลในจังหวัดศรีสะเกษ ได้พบว่า การนำใบยอไปย่างบนเตาถ่านไฟอ่อนๆประมาณ 1 นาที พร้อมโรยเกลือเล็กน้อยให้ทั่วใบ แล้ววางใบยอบนผ้าสะอาดวางนาบบนบริเวณที่มีอาการปวดหรืออักเสบ จะช่วยรักษาอาการปวดกล้ามเนื้อได้ และได้นำวิธีเดียวกันนี้ใช้รักษาผู้ป่วยโรคเกาต์ พบว่าส่วนใหญ่รู้สึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และอาการปวดลดลง
หากอ่านบทความนี้แล้วต้องการหา ใบยอแห้ง ไปใช้
สามารถติดต่อสอบถาม สั่งซื้อได้ทางไลน์
Line ID : @JONDEESHOP (มี@ด้านหน้า)
คลิกเพิ่มเพื่อนที่ => bit.ly/linejondeeshop
หรือไปที่แอพไลน์ => เพิ่มเพื่อน => เพิ่มโดย id ได้เลยยยยยยย
รหัสสินค้า 1946 ใบยอแห้ง 25 กรัม ทุน 8 บาท ราคา 9 บาท
ราคาอัพเดท ณ วันที่ 10/07/63
ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรุณารอยืนยันจากทางร้านก่อนเสมอ
บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้เผยแพร่ความรู้และภูมิปัญญาให้ผู้อ่านได้รู้จักมากยิ่งขึ้น มิได้เป็นบทความทางการแพทย์ หากต้องการหวังผลทางรักษา ควรปรึกษาแพทย์นะจ๊ะ (แพทย์นี้ก็มีหลายแผนจ้า ทั้งแพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน แพทย์แผนปัจจุบัน เป็นต้นจ้า)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
หมอชาวบ้าน
https://www.doctor.or.th/article/detail/1928
วงการแพทย์