ข้าวเหนียว เป็นอาหารหลักคู่กับวิถีของชาวไทยอิสาน และภาคเหนือมาอย่างยาวนาน และจะยังคงยืนยาวต่อไปอีกนานเท่านาน นอกจากนี้ความนิยมของข้าวเหนียวยังได้แผ่ขยายไปในภาคต่างๆของประเทศไทยอีกด้วย
ด้วยลักษณะเด่นของข้าว เมื่อหุงสุกแล้วข้าวจะเหนียวติดกัน ทั้งยังมีลีลาวิธีการทำให้สุกต่างจากข้าวเจ้าที่เรากินกันอยู่โดยทั่วไป ด้วยความนุ่มเหนียว เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง เมื่อได้กินข้าวเหนียวแล้วอยู่ท้อง อิ่มนาน ให้พลังงานมากกว่าข้าวเจ้า และเมื่อทานไม่หมดก็สามารถเก็บไว้ได้นานกว่า นี่ก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของข้าวเหนียว
ร้านของเราตั้งใจเลือกสรรข้าวเหนียว หลากหลายสายพันธุ์เพื่อมานำเสนอให้กับมิตรรักแฟนคลับร้านฝึกฝนบุญนิยมจนดีทุกท่าน
มาติดตามกันเลยดีกว่าว่า ร้านเรามีข้าวเหนียวอะไรบ้าง
ข้าวยอดฮิตติดกระแส และเสน่ห์ที่บ่งบอกอยู่ในชื่อของ ข้าวเหนียวลืมผัว ก็พอจะรู้กันได้ถึงสรรพคุณความอร่อยของข้าวเหนียวชนิดนี้ ด้วยเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมาว่า
เหตุเกิดที่ครอบครัวสองสามีภรรยาชาวม้ง ครอบครัวหนึ่ง เมื่อสามีออกไปทำงานนอกบ้าน ภรรยาก็ทำหน้าที่หุงข้าว เตรียมไว้เพื่อรอทานข้าวด้วยกัน แต่ระหว่างที่รอสามีอยู่นั้น ภรรยาก็ได้หยิบข้าวที่สุกแล้วมาปั้นกินเล่น ด้วยความที่ข้าวมีกลิ่นหอม รสชาติอร่อย เคี้ยวเพลิน คุณภรรยาก็กินข้าวหมดไปโดยไม่รู้ตัว ไม่เหลือไว้ให้สามีได้กินเลย จึงเรียกอาการนี้ว่า อร่อยจนลืมผัว นั่นเอง จึงน่าจะเป็นที่มาของคำว่า ข้าวเหนียวลืมผัว
เมื่อนำข้าวไปวิเคราะห์คุณค่าเชิงโภชนาการ พบว่าใน 100 กรัม จะมีสารต้านอนุมูลอิสระถึง 833.77 มิลลิกรัม เลยทีเดียว
ด้วยชื่อที่มาจากเรื่องราวชวนสะดุดหูและคุณค่าทางอาหารที่มีในเมล็ดข้าวจึงทำให้ข้าวพันธุ์นี้ติดปาก ติดอก ติดใจกันในวงกว้างเลยทีเดียว
ข้าวเหนียวแดงเป็นข้าวที่ให้น้ำตาลน้อยกว่าข้าวเหนียวชนิดอื่น มีความนิ่มมากกว่าข้าวกล้องหอมมะลิทั่วไป อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โฟลีฟีนอล ในปริมาณสูงรองจากข้าวหอมมะลิแดง สารนี้ช่วยลดการอักเสบในโรคหัวใจและหลอดเลือด
ในเว็บกรมการข้าว มีการเก็บข้อมูลความรู้สึกหลังจากที่ได้กินข้าวเหนียวแดง ว่า ผู้รีวิวส่วนใหญ่รู้สึกว่าข้าวเหนียวแดงมีความอร่อยไม่เหมือนข้าวชนิดไหน สามารถกินเปล่าๆได้เลยโดยที่ไม่ต้องมีอาหารมาทานคู่กัน เมื่อเคี้ยวไปนานๆแล้วจะรู้สึกสัมผัสได้ถึงความหวานของเมล็ดข้าว เป็นข้าวเหนียวที่นิ่มมาก ผู้รีวิวรู้สึกส่วนใหญ่ชอบ
เป็นข้าวอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ร้านของเราภูมิใจเสนอให้เลือกซื้อกัน ที่ได้ชื่อว่า “ข้าวเหนียวเขี้ยวงู” นั้น เพราะว่าเมื่อสีข้าวออกมาแล้วข้าวสารที่ได้จะมีเมล็ดเล็ก แหลม เรียวยาว คล้าย เขี้ยวงู นั่นเอง
ข้าวเหนียวพันธุ์นี้เป็นพันธุ์ที่นิยมนำมาทำเป็นข้าวเหนียวมูน (ข้าวเหนียวมูนคือข้าวที่นำไปคลุกเคล้ากับหัวกะทิ เรียกว่าการมูน เพื่อนำไปทำเป็นเมนูขนมหวานต่างๆของไทย อย่างเช่น ข้าวเหนียวทุเรียน ข้าวเหนียวมะม่วง หรือ บ๊ะจ่างนั่นเอง)
สำหรับร้านขนมหวานมืออาชีพ นอกจากรสมือที่อร่อยแล้ว วัตถุดิบก็ต้องเลือกสรรอย่างถูกลักษณะด้วย ที่ต้องเจาะจงเลือกข้าวเหนียวเขี้ยวงู เพราะว่าเวลานึ่งเสร็จแล้ว เมล็ดข้าวจะขึ้นเงาสวยน่าทาน ไม่เละ ไม่ดำ มีความเป็นมันวาว จึงทำให้ขนมที่ทำจากข้าวนั้นสวยน่าทานตลอดวันจ้า
เป็นข้าวพันธุ์กลายมาจาก ข้าวเจ้าพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 ทำให้ข้าวนี้มีกลิ่นหอมตามมาจากพันธุ์เดิมด้วย ถ้าจะถามว่าทำไมข้าวเจ้าถึงกลายมาเป็นข้าวเหนียวได้ล่ะ ก็จะต้องตอบว่าเป็นฝีมือการใช้รังสีแกมมาฉายใส่กับเมล็ดข้าวอย่างเฉียบพลัน ภาษาวิชาการเค้าเรียกว่า acute irradiation ให้เมล็ดข้าวเปลี่ยนพันธุ์กรัม ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรคงต้องไปค้นคว้ากันอย่างลึกๆเลยทีเดียวครับ (เอาเป็นว่าเป็นฝีมือของผู้เชี่ยวชาญในการพัฒนาพันธุ์ข้าวของไทยที่มีความสามารถในด้านนี้นะจ๊ะ)
ข้าวพันธุ์นี้ให้ผลผลิตที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ ทนแล้ง และต้านทานโรคต่างๆได้ดี ชาวนาจึงนิยมปลูกกันจ้า
หากอ่านจบแล้วอยากกินข้าวเหนียวพันธุ์ไหนที่เรานำเสนอในบทความนี้ ก็ทักไลน์ร้านมาได้เลยจ้า
Line ID : @JONDEESHOP (มี@ด้านหน้า)
คลิกเพิ่มเพื่อนที่ => bit.ly/linejondeeshop
หรือไปที่แอพไลน์ => เพิ่มเพื่อน => เพิ่มโดย id ได้เลยครับ
ราคาอัพเดท ณ วันที่ 8/2/20
ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
ข้าวเหนียวลืมผัว 1กก. รหัส 1217 ราคา 55 บาท
ข้าวเหนียวลืมผัว5กก รหัส 8810 ราคา 240 บาท
ข้าวเหนียวแดงกล้อง 1กก รหัส 8805 ราคา 46 บาท
ข้าวเหนียวแดงซ้อมมือ 1กก. รหัส 0534 ราคา 40 บาท
ข้าวเหนียว กข.6 1กก. รหัส 1058 ราคา 55 บาท
ข้าวเหนียว กข.6 5กก. รหัส 8816 ราคา 165 บาท
ก่อนจะจบบทความนี้ ก็ขอนำเสนอคำศัพท์เกี่ยวกับการนึ่งข้าวเหนียวกันสักหน่อย
หม่าข้าว เป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการนึ่งข้าวเหนียว เป็นการเตรียมข้าวเหนียวให้พร้อมที่จะนึ่ง โดยการนำข้าวสารเหนียวมาแช่น้ำ(อันนี้แหละอิสานบ้านเฮาเรียกว่า หม่าข้าว) เพื่อให้ข้าวอิ่มน้ำ ใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความใหม่เก่าของข้าวสาร ถ้าข้าวใหม่จะใช้เวลาแช่น้ำน้อยกว่าข้าวเก่า อันนี้ก็ขึ้นอยู่แต่ละพันธุ์ข้าวด้วย
ทำไมต้อง “หม่าข้าว” เพราะถ้าข้าวไม่อิ่มน้ำ เวลานึ่งข้าวจะไม่สุกจ้า
น้ำข้าวหม่า คือ น้ำที่ได้จากการหม่าข้าวในขั้นตอนแรก เมื่อเราหม่าข้าวเสร็จแล้ว เราก็มาซาวเอาแต่ข้าว เทน้ำซาวออก น้ำซาวข้าวที่เทออกนี่แหละ เรียกว่า น้ำข้าวหม่า
น้ำข้าวหม่า ตามภูมิปัญญาพื้นบ้านเรา จะเก็บไว้ใช้ล้างจาน หรือสระผม ทำให้ผมนุ่มสลวยสวยเก๋ด้วยนะ
หวด คือ อุปกรณ์สำคัญในการนึ่งข้าว เมื่อเราเทน้ำข้าวหม่าออกหมดแล้ว ก็นำข้าวสารใส่ในหวด ที่วางบนหม้อนึ่ง แล้วนำขึ้นตั้งไฟ ปิดฝารอจนไอน้ำผ่านข้าวเหนียวจนเกือบสุก เปิดฝาหม้อแล้วใช้ไม้พายพลิกข้าวส่วนที่ยังไม่สุกกลับลงไปด้านล่าง ส่วนที่สุกแล้วก็จะขึ้นมาอยู่ด้านบน
โบม เป็นเครื่องมือในการรองรับข้าวที่นึ่งแล้วของชาวอิสาน เพื่อพักและคนข้าวให้ไอน้ำระเหยออกไป เพื่อให้ข้าวเย็นตัวลงและไม่เปียกชื้นจากไอน้ำ (หากเปียกชื้นข้าวจะแฉะ เละ ทำให้บูดเร็ว แถมยังไม่อร่อยอีกต่างหาก) เมื่อใช้ไม้พายเกลี่ยข้าว พลิกไปมาให้ไอน้ำระเหยออกไปแล้ว ก็ใช้ไม้พายม้วนข้าวเพื่อเก็บไว้ในกระติ๊บ
กระติ๊บข้าว หรือ ก่องข้าว เสมือนภาชนะในการเก็บข้าวเหนียวที่นึ่งสุกแล้วไว้รับประทาน นั่นเอง
ข้าวที่จำหน่ายในร้านฝึกฝนบุญนิยมจนดี ยังมีอีกหลากหลายชนิด แต่ในบทความนี้ขอนำเสนอข้าวเหนียว 4 ชนิดก่อนนะครับ