เก๋ากี้ดำ เป็นสมุนไพรเม็ดเล็กๆ มีสีเข้มดำ เพราะมีสารแอนโทไซยานินสูง มีวิตามินที่สำคัญต่อร่างกาย ช่วยกระตุ้นร่างกายให้เกิดความตื่นตัว แพทย์แผนจีนท่านว่า มีฤทธิ์บำรุงตับ บำรุงไต บำรุงสายตา ช่วยดับกระหาย สงบประสาท ระงับอาการไอ
สีม่วงเข้มของเก๋ากี้ดำ บ่งชี้ว่ามีแอนโทไซยานิน(Anthocyanin)สูง ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของพืชที่มีสีม่วง เช่นเดียวกันกับ ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ดอกอัญชัญ ก็จะมีสารแอนโทไซยานินนี้เช่นกัน แต่ปริมาณมากน้อยแตกต่างกันไป ถ้าสีเข้มมากเป็นเครื่องบ่งชี้ว่า มีสารแอนโทไซยานินมาก สารนี้มีประโยชน์ต่อร่างกาย คือ
เก๋ากี้ดำ ยังมี โพลี่ซัคาไลน์ คือน้ำตาลเชิงซ้อนที่ช่วยกระตุ้นร่างกายให้เกิดความตื่นตัว และยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น เหล็ก สังกะสี ทองแดง แมกนิเซียม และนิกเกิล
หากจะว่ากันเรื่องวิตามินแล้ว เก๋ากี้ดำ ก็จะมีวิตามินที่สำคัญต่อร่างกาย ก็คือ วิตามินเอ วิตามินซี และวิตามินอี และยังมีกรดไขมันหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ที่ผลไม้ทั่วไปไม่มี
ทางการแพทย์แผนจีน
ท่านว่า เก๋ากี้ดำ มีรสหวานอมเปรี้ยว ไม่ร้อน ไม่เย็น มีฤทธิ์บำรุงตับ บำรุงไต บำรุงสายตา ช่วยดับกระหาย สงบประสาท ระงับอาการไอ
วิธีรับประทาน
วิธีที่ 1
ใช้เก๋ากี้ดำ 10 เม็ด ชงกับน้ำอุ่นทิ้งไว้ 5-10 นาที (อย่าใช้น้ำร้อนจัดเพราะจะทำให้แอนโทไซยานินสลายตัว)
รอจนสีเข้มขึ้น แล้วจึงดื่ม
หากชงร่วมกับเก๊กฮวย จะช่วยบำรุงสายตาให้ดียิ่งขึ้น
วิธีที่ 2
นำไปตุ๋นกับผักต่างๆเพื่อทำน้ำแกง
วิธีที่ 3
นำไปนึ่ง 2-3 นาที เพื่อให้นิ่ม กินเปล่าๆก็ได้ แต่จะมีรสเปรี้ยว และฝาด
ข้อควรระวัง
เก๋ากี้ดำ กับเก๋ากี้แดง แตกต่างกันอย่างไร
เก๋ากี้ดำรสเปรี้ยว ฝาด แต่เก๋ากี้แดงรสหวาน
เก๋ากี้ดำมีแอนโทไซยานินมากกว่า เก๋ากี้แดงมาก
เก๋ากี้ดำมีแร่ธาตุมากกว่าเก๋ากี้แดง โดยเฉพาะ ธาตุเหล็ก แคลเซียม คอปเปอร์ และ ซิงค์
หากอ่านบทความนี้แล้วต้องการหา เก๋ากี้ดำ ไปใช้
สามารถติดต่อสอบถามได้ทางไลน์
Line ID : @JONDEESHOP (มี@ด้านหน้า)
คลิกเพิ่มเพื่อนที่ => bit.ly/linejondeeshop
หรือไปที่แอพไลน์ => เพิ่มเพื่อน => เพิ่มโดย id ได้เลยยยยยยย
รหัสสินค้า 1173 เก๋ากี้ดำ 50 กรัม ทุน 38 บาท ขาย 40 บาท
รหัสสินค้า 1972 เก๋ากี๊ดำ 500 กรัม ทุน 320 บาท ขาย 35 บาท
ราคาอัพเดท ณ วันที่ 10/03/64
ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ กรุณารอยืนยันจากทางร้านก่อนเสมอ
บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้เผยแพร่ความรู้และภูมิปัญญาให้ผู้อ่านได้รู้จักมากยิ่งขึ้น มิได้เป็นบทความทางการแพทย์ หากต้องการหวังผลทางรักษา ควรปรึกษาแพทย์นะจ๊ะ (แพทย์นี้ก็มีหลายแผนจ้า ทั้งแพทย์แผนไทย แพทย์แผนจีน แพทย์แผนปัจจุบัน เป็นต้นจ้า)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
เวชพงศ์โอสถ
https://www.youtube.com/watch?v=-5nRjN9s7QE
การแพทย์แผนจีน